๓
๑ “ดูเถิด เราใช้ผู้ส่งข่าวของเราไป และเขาจะเตรียมทางล่วงหน้าเรา* มัทธิว 11:10; มาระโก 1:2; ลูกา 7:27 และพระผู้เป็นเจ้าผู้ที่พวกเจ้าแสวงหาจะมายังพระวิหารของพระองค์ในทันใด และ ดูเถิด ผู้ส่งข่าวแห่งพันธสัญญาซึ่งพวกเจ้าชื่นชอบกำลังมา” พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนั้น ๒ แต่ใครสามารถทนต่อวันนั้นได้เมื่อพระองค์มา และใครจะสามารถทนเมื่อพระองค์ปรากฏ เพราะพระองค์เป็นเหมือนเปลวไฟสำหรับหลอมเหล็ก และเหมือนผงซักฟอกของผู้ซักเสื้อผ้า ๓ พระองค์จะนั่งราวกับผู้หลอมเหล็กและผู้ทำให้เงินบริสุทธิ์ และพระองค์จะทำให้บรรดาบุตรของเลวีบริสุทธิ์ และหลอมพวกเขาเหมือนทองคำและเงิน และพวกเขาจะนำของถวายในความชอบธรรมมามอบแด่พระผู้เป็นเจ้า ๔ แล้วของถวายของยูดาห์และเยรูซาเล็มจะเป็นที่พอใจของพระผู้เป็นเจ้า เหมือนในสมัยดึกดำบรรพ์ เหมือนสมัยโบราณกาล
๕ “เราจะมาใกล้พวกเจ้าเพื่อพิพากษา เราจะรีบเป็นพยานต่อต้านบรรดาผู้ใช้วิทยาคม ผู้ผิดประเวณี ผู้เป็นพยานเท็จ ผู้เอาเปรียบค่าจ้างของคนงานรับจ้าง หญิงม่ายและเด็กกำพร้า ผู้บิดเบือนความเป็นธรรมซึ่งคนต่างด้าวควรได้รับ และผู้ไม่เกรงกลัวเรา” พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนั้น
การปล้นพระเจ้า
๖ “เราคือพระผู้เป็นเจ้า เราไม่เปลี่ยนแปลง ฉะนั้น โอ บรรดาผู้สืบเชื้อสายของยาโคบเอ๋ย พวกเจ้าจะไม่ถูกทำให้พินาศ ๗ นับตั้งแต่สมัยของบรรพบุรุษของพวกเจ้า พวกเจ้าหันเหไปจากกฎเกณฑ์ของเรา และไม่ได้ปฏิบัติตาม จงกลับมาหาเรา และเราจะกลับมาหาพวกเจ้า” พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนั้น “แต่พวกเจ้าถามว่า ‘พวกเราจะกลับมาหาพระองค์อย่างไร’ ๘ คนจะปล้นพระเจ้าหรือไม่ แต่พวกเจ้ากำลังปล้นเรา แต่พวกเจ้าถามว่า ‘พวกเราปล้นพระองค์ได้อย่างไร’ ในของถวายหนึ่งในสิบ† เลวีนิติ 27:30-32; กันดารวิถี 18:21-24 และของถวายที่เจ้าบริจาค ๙ ประชาชาติของเจ้าอยู่ใต้คำสาปแช่ง เพราะพวกเจ้ากำลังปล้นเรา ๑๐ จงนำของถวายหนึ่งในสิบเข้ามาในคลัง เพื่อให้มีอาหารในตำหนักของเรา” พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนั้น “จงทดสอบเราในเรื่องนี้ และดูซิว่า เราจะเปิดประตูสวรรค์ให้แก่พวกเจ้า และหลั่งพรให้แก่พวกเจ้าจนกระทั่งล้นที่เก็บหรือไม่ ๑๑ เราจะป้องกันแมลงกินพืชให้พวกเจ้า เพื่อไม่ให้ทำลายพืชผลบนพื้นดิน และเถาองุ่นในไร่จะติดดอกออกผล” พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนั้น ๑๒ “แล้วประชาชาติทั้งปวงจะเรียกพวกเจ้าว่า ผู้ได้รับพระพร เพราะแผ่นดินของพวกเจ้าจะเป็นที่ๆ น่าอยู่” พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนั้น
๑๓ พระผู้เป็นเจ้ากล่าวดังนี้ว่า “สิ่งที่พวกเจ้าพูดนั้นบาดใจเรา แล้วพวกเจ้ายังถามอีกว่า ‘พวกเราพูดสิ่งใดที่บาดใจพระองค์’ ๑๔ พวกเจ้าพูดว่า ‘เป็นการไร้ประโยชน์ที่จะรับใช้พระเจ้า พวกเราได้รับประโยชน์อะไรในการกระทำตามคำสั่งของพระองค์ หรือดำเนินชีวิตด้วยการร้องคร่ำครวญ ณ เบื้องหน้าพระผู้เป็นเจ้าจอมโยธา ๑๕ และบัดนี้พวกเราเรียกคนยโสว่า ผู้ได้รับพระพร และพวกที่กระทำความชั่วไม่เพียงแต่จะรุ่งเรือง แต่เขาท้าทายพระเจ้าและก็ยังรอดตัวไปได้’ ”
หนังสืออนุสรณ์
๑๖ ครั้นแล้วบรรดาผู้ที่เกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้าจึงพูดโต้ตอบกัน พระผู้เป็นเจ้าตั้งใจฟังและได้ยิน หนังสืออนุสรณ์ถูกบันทึก ณ เบื้องหน้าพระองค์ ถึงบรรดาผู้เกรงกลัวพระผู้เป็นเจ้าและเชิดชูพระนามของพระองค์
๑๗ พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวดังนี้ว่า “พวกเขาจะเป็นคนของเรา เป็นสมบัติอันมีค่าของเราในวันที่เราจะกระทำ เราจะไว้ชีวิตพวกเขาเช่นเดียวกับที่ชายคนหนึ่งไว้ชีวิตบุตรที่รับใช้เขา ๑๘ และเจ้าจะเห็นอีกครั้งถึงความแตกต่างระหว่างผู้มีความชอบธรรมและผู้ชั่วร้าย ระหว่างบรรดาผู้ที่รับใช้พระเจ้าและบรรดาผู้ที่ไม่รับใช้พระองค์