๑๑
ความรักของพระผู้เป็นเจ้ามีต่ออิสราเอล
๑ เมื่ออิสราเอลยังเป็นเด็ก เรารักเขามาก
และเราเรียกบุตรของเราออกมาจากประเทศอียิปต์* มัทธิว 2:15
๒ ยิ่งเขาถูกเรียกให้มา
พวกเขายิ่งหนีห่างออกไป
พวกเขามอบเครื่องสักการะให้แก่บาอัล
และเผาเครื่องบูชาให้แก่รูปเคารพทั้งหลาย
๓ แต่ก็เป็นเรานั่นแหละที่สั่งสอนเอฟราอิมให้เดิน
เราจูงมือจูงแขนของพวกเขา
แต่พวกเขาไม่ตระหนักใจเลยว่า
เราได้รักษาพวกเขาให้หายขาด
๔ เรานำพวกเขาไปด้วยสายใยของความเป็นมนุษย์
ด้วยความผูกพันแห่งความรัก
และเราคลายแอกจากคอของพวกเขา
และเราก้มลงให้อาหารแก่พวกเขา
๕ พวกเขาจะไม่กลับไปยังแผ่นดินอียิปต์
แต่อัสซีเรียจะเป็นกษัตริย์ของพวกเขา
เพราะพวกเขาปฏิเสธที่จะกลับมาหาเรา
๖ ดาบจะห้ำหั่นเมืองต่างๆ
และจะพังดาลประตูของพวกเขา
และทำให้แผนการของพวกเขาพินาศ
๗ ชนชาติของเราได้ตัดสินใจหันเหไปจากเรา
และถ้าแม้ว่าพวกเขาจะร้องเรียกถึงองค์ผู้สูงสุด
พระองค์ก็จะไม่ช่วยพวกเขาให้ลุกขึ้นมาได้อีก
๘ โอ เอฟราอิมเอ๋ย เราจะไม่แยแสเจ้าได้อย่างไร
โอ อิสราเอลเอ๋ย เราจะยกเจ้าให้ผู้อื่นได้อย่างไร
เราจะทำให้เจ้าเป็นอย่างอัดมาห์ได้อย่างไร
เราจะปฏิบัติต่อเจ้าอย่างเศโบยิมได้อย่างไร† เฉลยธรรมบัญญัติ 29:23
ส่วนลึกในใจของเราเปลี่ยนไป
พร้อมกับความเมตตาของเราที่ถูกกระตุ้นขึ้น
๙ เราจะไม่ปฏิบัติตามความกริ้วของเราที่คุขึ้น
เราจะไม่ทำลายเอฟราอิมอีก
เพราะเราเป็นพระเจ้า ไม่ใช่มนุษย์
เราเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ท่ามกลางเจ้า
และเราจะไม่มาพร้อมกับการลงโทษ‡ หรือ ไม่เข้ามาในเมือง
๑๐ พวกเขาจะตามพระผู้เป็นเจ้าไป
พระองค์จะคำรามเหมือนสิงห์
เมื่อพระองค์คำราม
บรรดาลูกๆ ของพระองค์จะมาด้วยตัวสั่นเทาจากทิศตะวันตก
๑๑ พวกเขาจะมาด้วยตัวสั่นเทาเหมือนนกจากอียิปต์
และเหมือนนกพิราบจากแผ่นดินของอัสซีเรีย
และเราจะให้พวกเขากลับไปยังบ้านของพวกเขา”
พระผู้เป็นเจ้าประกาศดังนั้น
๑๒ เอฟราอิมเต็มด้วยความเท็จ
และพงศ์พันธุ์อิสราเอลมีแต่ความหลอกลวง
ยูดาห์ไม่ดำเนินในทางของพระเจ้า
และไม่ภักดีต่อองค์ผู้บริสุทธิ์