๒๔
การล้อมเมืองเยรูซาเล็ม
๑ ในวันที่สิบของเดือนสิบ ปีที่เก้า* มกราคม 588 ปีก่อน ค.ศ. พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับข้าพเจ้าดังนี้ว่า ๒ “บุตรมนุษย์เอ๋ย จงบันทึกวันที่วันนี้ เจาะจงวันที่วันนี้ กษัตริย์แห่งบาบิโลนได้ล้อมเมืองเยรูซาเล็มตามวันที่ระบุนี้† 2 พงศ์กษัตริย์ 25:1 ๓ และจงพูดเป็นอุปมาแก่พงศ์พันธุ์ที่ขัดขืนว่า พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้
‘จงตั้งหม้อต้ม จงตั้งหม้อ
และใส่น้ำลงไปด้วย
๔ ใส่เนื้อลงในหม้อ ใช้เนื้อส่วนที่ดี
ขาอ่อนและเนื้อสันขาหน้า
บรรจุกระดูกส่วนที่ดีให้เต็มหม้อ
๕ จงใช้แกะที่ดีที่สุดจากฝูง
สุมฟืนใต้หม้อ ต้มให้เดือด
ต้มกระดูกในหม้อด้วย’ ”
๖ ฉะนั้น พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ว่า “วิบัติจงเกิดแก่เมืองที่นองเลือด วิบัติจงเกิดแก่หม้อต้มที่มีตะกรันติดอยู่ในหม้อและยังไม่หลุดออก จงคีบเนื้อออกจากหม้อทีละชิ้นโดยไม่เลือกว่าชิ้นไหนก่อน ๗ เลือดที่นางทำให้ไหลนองอยู่ท่ามกลางนางนั้น นางใช้ป้ายบนหินในที่แจ้ง นางไม่ได้เทที่พื้นดินให้ฝุ่นกลบ ๘ เราปล่อยให้เลือดเปื้อนอยู่บนหินในที่แจ้ง เพื่อให้เห็นและก่อให้เกิดโทสะและแก้แค้นนาง” ๙ ฉะนั้น พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ว่า “วิบัติจงเกิดแก่เมืองที่นองเลือด เราจะกองฟืนให้เป็นกองใหญ่ ๑๐ สุมฟืนให้มาก ก่อไฟ ต้มเนื้อให้สุก ผสมเครื่องเทศ และปล่อยให้กระดูกไหม้เกรียม ๑๑ และทิ้งหม้อเปล่าไว้บนถ่านให้ร้อน ทองแดงจะลุกไหม้ ความไม่บริสุทธิ์ก็จะหลอมละลายในกองไฟ ตะกรันก็จะมอดไหม้ ๑๒ นางพยายามตรากตรำจนอ่อนล้า ตะกรันเกาะจนหนาทำให้ไม่หลุด และติดอยู่ในกองไฟ ๑๓ ความไม่บริสุทธิ์ของเจ้าคือความมักมากในกาม เราอยากชำระเจ้า แต่เจ้าไม่ได้ถูกชำระให้หลุดจากความไม่บริสุทธิ์ของเจ้า เจ้าจะไม่ถูกชำระให้สะอาดอีกต่อไปจนกว่าเราจะลงโทษเจ้าจนพอใจ ๑๔ เราคือพระผู้เป็นเจ้า เราได้กล่าวแล้ว สิ่งนี้จะเกิดขึ้น เราจะกระทำอย่างนั้น เราจะไม่ยั้งมือหรือไว้ชีวิต เจ้าจะถูกกล่าวโทษตามวิถีทางและการกระทำของเจ้า” พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนั้น
ภรรยาของเอเสเคียลเสียชีวิต
๑๕ พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับข้าพเจ้าดังนี้ว่า ๑๖ “บุตรมนุษย์เอ๋ย ดูเถิด เรากำลังจะพรากผู้เป็นดุจแก้วตาไปจากเจ้าอย่างฉับพลัน แต่เจ้าต้องไม่คร่ำครวญหรือร้องรำพันหรือน้ำตาไหลพราก ๑๗ โอดครวญค่อยๆ อย่าคร่ำครวญถึงคนตาย โพกศีรษะของเจ้า สวมรองเท้า อย่าบังปากหรือรับประทานอาหารของคนไว้ทุกข์” ๑๘ ดังนั้น ข้าพเจ้าพูดกับประชาชนในตอนเช้า และพอตกเย็นภรรยาของข้าพเจ้าก็เสียชีวิต เมื่อถึงเวลาเช้าข้าพเจ้าทำตามที่ข้าพเจ้าได้รับคำสั่ง
๑๙ ประชาชนพูดกับข้าพเจ้าดังนี้ว่า “ท่านจะไม่บอกพวกเราหรือว่า สิ่งเหล่านี้มีความหมายกับพวกเราอย่างไร เมื่อท่านปฏิบัติอย่างนี้” ๒๐ ข้าพเจ้าตอบพวกเขาว่า “พระผู้เป็นเจ้ากล่าวกับข้าพเจ้าว่า ๒๑ จงบอกพงศ์พันธุ์อิสราเอล พระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่กล่าวดังนี้ ‘ดูเถิด เราจะทำลายที่พำนักของเรา ความยโสในอำนาจของเจ้า สิ่งที่เจ้าชื่นชอบดุจแก้วตา และเป็นที่พึงปรารถนาในชีวิตของเจ้า และบรรดาบุตรชายหญิงของเจ้าที่ถูกทอดทิ้งจะถูกดาบฆ่าตาย ๒๒ และเจ้าจะปฏิบัติอย่างที่เราได้กระทำ พวกเจ้าจะไม่บังปากหรือรับประทานอาหารของคนไว้ทุกข์ ๒๓ พวกเจ้าจะโพกศีรษะและสวมรองเท้า พวกเจ้าจะไม่คร่ำครวญหรือน้ำตาไหลพราก แต่จะทรุดโทรมลงเพราะบาปของเจ้า และจะโอดครวญต่อกันและกัน ๒๔ เอเสเคียลจะเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เจ้าเห็น พวกเจ้าจะทำตามทุกอย่างที่เขาได้ทำ เมื่อเป็นไปตามนี้แล้ว พวกเจ้าจะรู้ว่า เราคือพระผู้เป็นเจ้าผู้ยิ่งใหญ่’
๒๕ สำหรับเจ้า บุตรมนุษย์เอ๋ย ในวันที่เราพรากหลักยึดอันมั่นคงของพวกเขา ความยินดีและความภาคภูมิของพวกเขา สิ่งที่พวกเขาชื่นชอบดุจแก้วตาและเป็นที่พึงปรารถนาในชีวิตของพวกเขา อีกทั้งบรรดาบุตรชายหญิงของพวกเขาด้วย ๒๖ ในวันนั้น ผู้ลี้ภัยคนหนึ่งจะมาหาเจ้าเพื่อรายงานว่าได้เกิดอะไรขึ้นที่เยรูซาเล็ม ๒๗ ในวันนั้น เจ้าจะเปิดปากพูดกับผู้ลี้ภัย เจ้าจะไม่นิ่งเงียบอีก ดังนั้นเจ้าจะเป็นเครื่องพิสูจน์ให้แก่พวกเขา และพวกเขาจะรู้ว่า เราคือพระผู้เป็นเจ้า”