๑๕
พระผู้เป็นเจ้าไม่ยอมรับซาอูล
๑ ซามูเอลพูดกับซาอูลว่า “ข้าพเจ้าเป็นคนที่พระผู้เป็นเจ้าใช้ให้มาเจิมท่านเป็นกษัตริย์ปกครองชนชาวอิสราเอลของพระองค์ ฉะนั้นบัดนี้ขอท่านฟังคำพูดของพระผู้เป็นเจ้า ๒ พระผู้เป็นเจ้าจอมโยธากล่าวว่า ‘เราจะลงโทษพวกอามาเลข ตามที่เขาได้กระทำต่ออิสราเอล ต่อต้านพวกเขาในขณะที่กำลังออกไปจากประเทศอียิปต์* ปฐมกาล 36:12; อพยพ 17:8-13; เฉลยธรรมบัญญัติ 25:17-19 ๓ เวลานี้จงไปโจมตีพวกอามาเลข และทำลายทุกสิ่งที่เป็นของพวกเขา อย่าไว้ชีวิตใคร ฆ่าทั้งชายและหญิง เด็กๆ และทารก โค และแกะ อูฐและลา’ ”
๔ ดังนั้นซาอูลจึงเกณฑ์พลและตรวจพลที่เทลาอิม มีทหารราบ 200,000 คน และชาย 10,000 คนจากเผ่ายูดาห์ ๕ ซาอูลไปยังเมืองของชาวอามาเลข และดักซุ่มที่ธารน้ำในหุบเขา ๖ แล้วท่านพูดกับชาวเคนว่า “ไปเถิด จงไปเสียจากชาวอามาเลข เพื่อเราจะไม่ต้องทำลายพวกท่านรวมไปกับพวกเขาด้วย เพราะว่าพวกท่านกรุณาต่อชาวอิสราเอลทั้งปวง ในเวลาที่เขาออกมาจากประเทศอียิปต์”† กันดารวิถี 10:29-32; ผู้วินิจฉัย 1:16 ดังนั้นชาวเคนจึงแยกย้ายออกไปจากชาวอามาเลข ๗ และซาอูลก็โจมตีชาวอามาเลข ตั้งแต่ฮาวิลาห์ไปจนถึงชูร์ซึ่งอยู่ทางตะวันออกของอียิปต์ ๘ ท่านจับอากักกษัตริย์ของชาวอามาเลขได้ทั้งเป็น ท่านทำลายล้างทุกชีวิตด้วยคมดาบ ๙ แต่ซาอูลและพวกทหารไว้ชีวิตอากักและแกะกับโคที่ดีที่สุด รวมทั้งลูกโคและลูกแกะอ้วนพี คือทุกสิ่งที่ดีๆ พวกเขาไม่ยอมทำลายให้เสียสิ้น แต่ทุกสิ่งที่ไม่มีค่าและอ่อนแอนั้น พวกเขาทำลายล้างจนหมดสิ้น
๑๐ พระผู้เป็นเจ้าจึงกล่าวกับซามูเอลว่า ๑๑ “เราเสียใจที่ได้แต่งตั้งซาอูลให้เป็นกษัตริย์ เพราะว่าเขาได้หันไปจากเรา และไม่ได้กระทำตามคำบัญชาของเรา” ซามูเอลไม่สบายใจ ท่านจึงได้ร้องเรียกถึงพระผู้เป็นเจ้าตลอดทั้งคืน ๑๒ วันรุ่งขึ้นซามูเอลลุกขึ้นแต่เช้าตรู่ และไปพบกับซาอูล แต่มีคนบอกท่านว่า “ซาอูลไปที่ภูเขาคาร์เมลแล้ว ท่านไปตั้งสถานที่ระลึกที่นั่นเพื่อเป็นเกียรติแก่ตนเอง และลงไปยังกิลกาลต่ออีกด้วย” ๑๓ เมื่อซามูเอลตามหาซาอูลพบแล้ว ซาอูลพูดว่า “พระผู้เป็นเจ้าอวยพรให้แก่ท่าน เราได้กระทำตามคำสั่งของพระผู้เป็นเจ้าแล้ว” ๑๔ แต่ซามูเอลพูดว่า “แล้วเสียงร้องจากฝูงแพะแกะและฝูงโคล่ะ มันเรื่องอะไรกัน” ๑๕ ซาอูลตอบว่า “พวกทหารเอาฝูงสัตว์มาจากพวกอามาเลข และไว้ชีวิตแพะแกะและโคที่ดีที่สุด เพื่อถวายเป็นเครื่องสักการะแด่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน และที่เหลือ เราก็ได้ทำลายล้างจนหมดสิ้นแล้ว” ๑๖ ซามูเอลพูดกับซาอูลว่า “หยุดได้แล้ว ให้เราบอกท่านเถิดว่าพระผู้เป็นเจ้ากล่าวอะไรกับเราเมื่อคืนนี้” ซาอูลตอบว่า “บอกเราเถิด”
๑๗ ซามูเอลพูดว่า “แม้ว่าท่านเคยคิดว่า ท่านไม่ใช่คนสำคัญนัก แล้วท่านไม่ได้มาเป็นผู้นำของบรรดาเผ่าของอิสราเอลหรือ พระผู้เป็นเจ้าเจิมท่านให้เป็นกษัตริย์ปกครองอิสราเอล ๑๘ และพระองค์มอบหมายให้ท่านออกไปปฏิบัติงาน โดยกล่าวว่า ‘จงไปทำลายล้างชาวอามาเลขซึ่งเป็นคนบาปให้หมดสิ้น ทำศึกสงครามกับพวกนั้นจนเจ้าปราบทุกคนให้สูญสิ้น’ ๑๙ ทำไมท่านจึงไม่เชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้า ทำไมท่านจึงได้ตะครุบเอาสิ่งที่ริบได้ และกระทำชั่วในสายตาของพระผู้เป็นเจ้า” ๒๐ ซาอูลพูดกับซามูเอลว่า “แต่เราเชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้าแล้ว เราปฏิบัติไปตามที่พระผู้เป็นเจ้ามอบหมายให้เราทำ เราพาอากักกษัตริย์ของพวกเขากลับมา และเราทำลายล้างพวกอามาเลขจนหมดสิ้น และ ๒๑ พวกทหารเอาฝูงแพะแกะและฝูงโคจากที่ริบมาได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ถูกกำหนดให้พินาศ เพื่อเป็นเครื่องสักการะแด่พระผู้เป็นเจ้าที่กิลกาล”
๒๒ ซามูเอลพูดว่า
“พระผู้เป็นเจ้ายินดีในสัตว์ที่เผาเป็นของถวาย
และเครื่องสักการะ มากเท่ากับการเชื่อฟังพระผู้เป็นเจ้าหรือ
การเชื่อฟังดีกว่าเครื่องสักการะ
และการฟังก็ดีกว่าไขมันจากแกะตัวผู้
๒๓ เพราะว่าการขัดขืนเป็นดั่งบาปของการทำนายอนาคต
และความยโสเป็นดั่งความชั่วของการบูชารูปเคารพ
เพราะท่านไม่ได้กระทำตามคำกล่าวของพระผู้เป็นเจ้า
พระองค์ไม่ยอมรับท่านเป็นกษัตริย์แล้ว”
๒๔ ซาอูลพูดกับซามูเอลว่า “เราได้กระทำบาปแล้ว เราได้ละเมิดคำบัญชาของพระผู้เป็นเจ้าและสิ่งที่ท่านแจ้ง เรากลัวผู้คน เราจึงยอมทำตามพวกเขา ๒๕ เวลานี้เราขอร้องท่าน โปรดให้อภัยบาปของเรา และกลับไปกับเรา เราจะได้นมัสการพระผู้เป็นเจ้า” ๒๖ แต่ซามูเอลพูดกับท่านว่า “เราจะไม่กลับไปกับท่าน ท่านไม่ได้กระทำตามคำกล่าวของพระผู้เป็นเจ้า และพระผู้เป็นเจ้าไม่ยอมรับท่านเป็นกษัตริย์ปกครองอิสราเอลแล้ว” ๒๗ ขณะที่ซามูเอลหันกลับเพื่อจะจากไป ซาอูลคว้าชายเสื้อท่านไว้ เสื้อก็ขาด ๒๘ ซามูเอลพูดกับท่านว่า “พระผู้เป็นเจ้าได้ฉีกอาณาจักรของอิสราเอลไปจากท่านในวันนี้ และมอบให้แก่คนร่วมชาติของท่านอีกคนหนึ่งซึ่งดีกว่าท่าน ๒๙ พระองค์ผู้เป็นพระบารมีของอิสราเอลไม่พูดปดหรือเปลี่ยนใจ เพราะพระองค์ไม่ใช่มนุษย์ที่จะเปลี่ยนใจ” ๓๐ ซาอูลตอบว่า “เราได้กระทำบาปแล้ว แต่โปรดให้เกียรติเราต่อหน้าบรรดาหัวหน้าชั้นผู้ใหญ่ของประชาชน และต่อหน้าอิสราเอล ท่านกลับมากับเราเถิด เราจะได้นมัสการพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน” ๓๑ ดังนั้นซามูเอลจึงกลับไปกับซาอูล และซาอูลก็ได้นมัสการพระผู้เป็นเจ้า
๓๒ ซามูเอลกล่าวว่า “พาอากักกษัตริย์ของชาวอามาเลขมาให้เรา” อากักก็มาหาท่านด้วยความมั่นใจและคิดว่า “จังหวะที่จะต้องตายคงผ่านพ้นไปแล้วเป็นแน่” ๓๓ แต่ซามูเอลพูดว่า “เท่าที่คมดาบของท่านได้ทำให้ผู้หญิงบางคนไร้บุตรฉันใด มารดาของท่านก็จะไร้บุตรในบรรดาผู้หญิงฉันนั้น” และซามูเอลก็ประหารอากักต่อหน้าพระผู้เป็นเจ้าที่กิลกาล
๓๔ จากนั้นซามูเอลก็ไปยังรามาห์ แต่ซาอูลขึ้นไปยังวังของท่านที่กิเบอาห์แห่งซาอูล ๓๕ ซามูเอลไม่ได้ไปพบซาอูลอีกจนวันสิ้นชีวิต กระนั้นก็ตามซามูเอลยังร้องคร่ำครวญถึงซาอูล และพระผู้เป็นเจ้าเสียใจที่พระองค์แต่งตั้งให้ซาอูลเป็นกษัตริย์ปกครองอิสราเอล