๒๓
ผู้ถูกกีดกันไม่ให้ร่วมในที่ประชุม
๑ อย่าให้ชายที่ลูกอัณฑะไม่ปกติหรืออวัยวะสืบพันธุ์ถูกตัดเข้าร่วมในที่ประชุมของพระผู้เป็นเจ้า
๒ อย่าให้บุตรนอกสมรสเข้าไปร่วมในที่ประชุมของพระผู้เป็นเจ้า ลูกหลานของเขารุ่นต่อๆ ไปจน 10 ชั่วอายุคนก็อย่าให้เข้าไปในที่ประชุมของพระผู้เป็นเจ้า
๓ อย่าให้ชาวอัมโมนหรือชาวโมอับเข้าร่วมในที่ประชุมของพระผู้เป็นเจ้า รวมถึงคนของพวกเขารุ่นต่อๆ ไปจน 10 ชั่วอายุคนก็อย่าให้เข้าไปในที่ประชุมของพระผู้เป็นเจ้าตลอดกาล* ปฐมกาล 19:30-38 ๔ เพราะว่าเมื่อท่านออกจากอียิปต์ พวกเขาไม่จัดหาอาหารและน้ำให้ท่าน เขาว่าจ้างบาลาอัมบุตรของเบโอร์จากเมืองเปโธร์แห่งอารัมนาหะราอิม† อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมโสโปเตเมียให้สาปแช่งท่าน ๕ กระนั้นก็ดีพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านไม่ได้ฟังบาลาอัม แต่พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านเปลี่ยนการสาปแช่งให้เป็นพระพรแก่ท่าน เพราะพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านรักท่าน‡ กันดารวิถี 22:1-24:25 ๖ อย่าพยายามให้พวกเขาสงบสุขหรือเจริญสุขตลอดชีวิตของท่าน
๗ อย่ารังเกียจชาวเอโดม เพราะเขาเป็นพี่น้องของท่าน§ ปฐมกาล 36:1 อย่ารังเกียจชาวอียิปต์ เพราะท่านเคยเป็นคนต่างด้าวในแผ่นดินของเขา ๘ ให้หลานๆ ในชั่วอายุที่สามของพวกเขาที่เกิดตามมาเข้าไปในที่ประชุมของพระผู้เป็นเจ้าได้
มลทินในค่าย
๙ เมื่อท่านทำศึกกับศัตรูขณะที่ยังอยู่ในค่าย ท่านจงรักษาตัวให้พ้นจากสิ่งที่เป็นมลทิน
๑๐ ถ้าใครในหมู่พวกท่านเป็นมลทินจากมีฝันเปียกในยามค่ำ เขาต้องไปอยู่ที่นอกค่าย จะเข้ามาในค่ายไม่ได้ ๑๑ จนกว่าจะถึงเวลาเย็นอีกครั้งโดยเขาจะต้องชำระล้างตัวในน้ำ พอตะวันตก เขาจึงจะเข้ามาในค่ายได้
๑๒ ท่านต้องมีสถานที่ซึ่งอยู่นอกค่ายไว้สำหรับขับถ่าย ๑๓ และท่านจงเอาไม้ติดตัวไปพร้อมกับอาวุธ ยามท่านต้องขับถ่ายก็จงใช้ไม้นั้นขุดหลุม แล้วก็กลบสิ่งที่ท่านขับถ่าย ๑๔ เพราะพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านย่างเท้าอยู่ท่ามกลางค่ายของท่านเพื่อปกป้องท่าน และให้ศัตรูยอมจำนนแก่ท่าน ฉะนั้นค่ายของท่านต้องสะอาดบริสุทธิ์ เพื่อพระองค์จะไม่ต้องเห็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมในหมู่พวกท่าน และต้องหันหลังให้ท่าน
กฎเกณฑ์ต่างๆ
๑๕ ถ้ามีทาสที่หนีนายของเขามาพึ่งท่าน ก็อย่าจับทาสส่งคืนให้นายของเขา ๑๖ จงให้เขาอยู่กับท่านในท่ามกลางพวกท่าน เขาพึงพอใจสถานที่ใดมากที่สุดก็ให้เขาเลือกได้ในเมืองของท่าน อย่าบีบบังคับเขาเลย
๑๗ อย่าให้มีชายหรือหญิงชาวอิสราเอลคนใดที่จะมาเป็นชายหรือหญิงแพศยาประจำวิหาร ๑๘ อย่านำค่าแรงของหญิงแพศยาหรือค่าแรงของสุนัข* คือชายแพศยาเข้ามาในพระตำหนักของพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านเพื่อชดใช้คำปฏิญาณ เพราะทั้งสองสิ่งนี้เป็นสิ่งน่ารังเกียจต่อพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน
๑๙ อย่าคิดดอกเบี้ยกับพี่น้องของท่าน ดอกเบี้ยที่ได้จากการยืมเงิน จากอาหาร หรือจากสิ่งใดก็ตามที่คิดเป็นดอกเบี้ยได้ ๒๐ ท่านให้ชาวต่างชาติยืมโดยคิดดอกเบี้ยได้ แต่อย่าให้ยืมโดยคิดดอกเบี้ยกับพี่น้องของท่านเอง พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านจะอวยพรท่านในทุกสิ่งที่ท่านทำในแผ่นดินซึ่งท่านกำลังจะไปยึดครอง
๒๑ เมื่อท่านปฏิญาณต่อพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน ก็อย่าเลื่อนกำหนดไม่กระทำตามคำปฏิญาณ เพราะพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านต้องการให้ท่านกระทำตามที่ได้ปฏิญาณไว้ มิฉะนั้นท่านจะถูกนับว่าท่านมีบาป ๒๒ แต่ถ้าท่านไม่ตั้งคำปฏิญาณ ท่านก็จะไม่มีบาป ๒๓ อะไรก็ตามที่ปฏิญาณด้วยปากท่าน ท่านต้องแน่ใจว่าจะปฏิบัติตามได้ เพราะท่านให้คำมั่นด้วยความสมัครใจต่อพระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านด้วยปากของท่านเอง
๒๔ เมื่อท่านเข้าไปในสวนองุ่นของเพื่อนบ้านท่าน ท่านจะรับประทานองุ่นจนอิ่มได้ตามความต้องการ แต่อย่าเก็บใส่ตะกร้าของท่านไป ๒๕ เมื่อท่านเข้าไปในนาที่เพื่อนบ้านของท่านปลูกข้าวไว้ ท่านจะใช้มือเด็ดรวงข้าวได้ แต่ท่านอย่าใช้เคียวเกี่ยวข้าวที่เพื่อนบ้านของท่านปลูก